BGRIM ลุ้นปิดดีลโรงไฟฟ้า 300MW-กกพ.ไฟเขียวนำเข้า LNG

BGRIM ลุ้นปิดดีลโรงไฟฟ้า 300MW-กกพ.ไฟเขียวนำเข้า LNG

BGRIM เทรด 19 ก.ค.นี้ เดินหน้าเร่งลุยโรงไฟฟ้าใหม่

"บี.กริม เพาเวอร์" ลุ้นปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าใหม่ กำลังผลิตรวม 300 เมกะวัตต์  พร้อมคงแผนลงทุนปีนี้ด้วยงบ 1.6-1.8 หมื่นล้านบาท จากงบ 5 ปีที่ 7-7.5 หมื่นล้านบาท โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน ด้าน"คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน" ไฟเขียวให้ใบอนุญาตนำเข้า LNG 6.5 แสนตัน เตรียมใช้ป้อนโรงไฟฟ้า SPP 5 แห่ง ฉุดต้นทุนต่ำลง
*** ลุ้นดีลซื้อโรงไฟฟ้า 300 MW
    นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า ? บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ จำนวน 2-3 โรง ขนาดกำลังการผลิตรวมไม่ต่ำกว่า 300 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ขั้นตอนการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ นอกจากนี้ยังเห็นโอกาสในการเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าประเภทพลังงานทดแทนอื่นๆอีก
 
*** ยันไม่มีแผนเพิ่มทุน
    บริษัทยังคงแผนการลงทุนในปีนี้ ด้วยงบวงเงิน 16,000-18,000ล้านบาท และงบลงทุน 5 ปี วงเงิน  70,000-75,000ล้านบาท   โดยแหล่งเงินมาจากเงินกู้ในสัดส่วน 70-78% ของเงินลงทุนดังกล่าว  ทำให้ในปีนี้บริษัทจะต้องใช้เงินส่วนทุน จำนวน 6,000-8,000ล้านบาท ขณะที่เงินลงทุน 5ปี จะใช้เงินส่วนทุน จำนวน 16,000-17,000ล้านบาท
     
    แม้ว่าบริษัทมีแผนการลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่ยืนยันว่าจะไม่มีนโยบายเพิ่มทุน เพราะมีกระแสเงินสดในมือประมาณ 21,000 ล้านบาท  และในช่วงปลายปี 62  ได้ออกหุ้นกู้ วงเงิน 8,000ล้านบาท  ปัจจุบันมีอัตราหนี้สินต่อทุนเพียง 1.1 เท่า  จากนโยบายที่บริษัทกำหนดไม่เกิน 2 เท่า
*** คาดรายได้-กำไรปีนี้ทรงตัว
    บริษัทคาดรายได้และกำไรสุทธิปี 63 จะใกล้เคียง หรือจะดีกว่าในปี 62   ที่มีรายได้จากการขายและบริการ อยู่ที่ 44,132 ล้านบาท  และมีกำไรสุทธิที่ 3,977 ล้านบาท   โดยในปีนี้จะรับรู้ผลประกอบการของโซลาร์ ฟาร์มที่เวียดนาม 677 เมกะวัตต์ แบบเต็มปี ขณะที่รายได้จากการขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ.และการไฟฟ้าเวียดนามจะไม่มีผลกระทบต่อความต้องการ ส่วนกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมจะมีผลกระทบของการชะลอการผลิตในเดือนเม.ย. แต่ ล่าสุดในเดือนพ.ค.ได้เริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว
*** กกพ.ไฟเขียวนำเข้า LNG
     นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ.ได้เห็นชอบให้บริษัท บี.กริม แอลเอ็นจี จำกัด เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย  จากที่มีผู้ได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติทั้งหมด 4 ราย  ประกอบด้วย  ??บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และบริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด 
    ทั้งนี้ ผู้ได้รับใบอนุญาตรายใหม่จะสามารถดำเนินการประสานงานติดต่อคลังเก็บก๊าซธรรมชาติ (LNG Receiving Terminal) และระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เพื่อศึกษาความสามารถของระบบก๊าซธรรมชาติ การจองการใช้งานระบบส่งก๊าซธรรมชาติ และเตรียมความพร้อมด้านอื่นๆ ในการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในการขอรับใบอนุญาต
    ปัจจุบันราคา LNG ในตลาดโลกอยู่ในระดับที่ต่ำและจะเป็นโอกาสที่ผู้ได้รับใบอนุญาตที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าวในการเตรียมความพร้อมและติดต่อประสานงานผู้ผลิตเพื่อนาเข้า LNG  ในอนาคต 
    
    อีกทั้งผู้ได้รับใบอนุญาตทุกรายจะต้องศึกษาโครงสร้างกิจการก๊าซธรรมชาติ โครงสร้างราคา และกฎกติกาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ TPA Codes ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เพื่อประโยชน์ในการนำเข้า LNG ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และในจังหวะที่เหมาะสม  
    ด้านนางปรียนาถ กล่าวว่า  บริษัทขอยื่นเป็นผู้จัดหาและนำเข้า (Shipper) ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) รายใหม่ จำนวน 6.5 แสนตัน  โดยมีแผนนำก๊าซ LNG ที่ได้ไปใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าประเภท SPP Replacement จำนวน 5 แห่ง
*** โบรกฯชี้นำเข้า LNG ฉุดต้นทุนต่ำลง
    นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย หลัง BGRIM ได้รับอนุญาตจาก กกพ. ให้สามารถนำเข้าก๊าซธรรมชาติ  LNG  จะส่งผลดีต่อบริษัท มากกว่า GULF เนื่องจาก BGRIM มีสัดส่วนลูกค้านิคมอุตสาหกรรม 25% มากกว่า GULF ที่มีสัดส่วน 13% ซึ่งการมีลูกค้าเอกชนจำนวนมากจะช่วยเพิ่ม Margin ได้ดีกว่าการมีลูกค้าเป็นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
    ขณะเดียวกัน ในปี 65 BGRIM จะมีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ ( COD) แทนที่โรงไฟฟ้าเก่าที่จะหมดสัญญาลงในปี 64 ซึ่งโรงไฟฟ้าใหม่ที่จะดำเนินการในปี 65 จะไม่มีสัญญาซื้อ LNG กับ ปตท. เหมือนโรงไฟฟ้าเก่า  ดังนั้น การนำเข้า LNG  เอง จะทำให้ต้นทุนของ BGRIM ลดลง ซึ่งจะทำวให้บริษัทมีต้นทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่ปี 65 เป็นต้นไป 
    ทั้งนี้ บล.หยวนต้าฯ ประเมินว่าหุ้น BGRIM ยังมี Upside จากปัจจัยดังกล่าว โดยยังคงแนะนำ"ซื้อ" มีราคาเป้าหมายที่ 55-60 บาท
***  ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
    บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ มองผลประกอบการ 2Q63F จะดีขึ้น QoQ โดยมีปัจจัยหนุนจาก 1) การลดลงของราคาก๊าซ, 2) EGAT กลับมาซื้อในปริมาณปกติ (ใน 1Q63 มีซ่อมบำรุงสายส่งไป 10 วัน), 3) ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนน้อยลง 
    ลูกค้าหลักคือ EGAT ในปี 62 บริษัทมีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้กับ EGAT เท่ากับ 68.7% ของทั้งหมด, ขายไฟฟ้าให้กับภาคอุตสาหกรรมในไทย 26.9% (ซึ่งราวครึ่งหนึ่งขายให้กับลูกค้ากลุ่มยานยนต์) และขายไฟฟ้าให้กับภาคอุตสาหกรรมในเวียดนาม 4.4%
    ต้นทุนก๊าซลดลงต่อเนื่องใน 2Q-3Q-4Q63 โดยกลุ่มปตท.ให้ Guidance ราคาก๊าซในไตรมาสดังกล่าวไว้ที่ 262,232, 210 บาท/mmbtu เทียบกับ 1Q63 ที่ 266 บาท/mmbtu ซึ่งผู้บริหาร BGRIM กล่าวว่าการลดลงของราคาก๊าซทุกๆ 1 บาท/mmbtu จะทำให้ต้นทุนลดลง 25 ล้านบาท/ปี
    แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 58 บาท ทั้งนี้คาดว่าผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วใน 1Q63 ความเสี่ยงทางธุรกิจไม่สูง ปัญหาภัยแล้งไม่ได้กระทบมาก เพราะขณะนี้มีฝนตกมากขึ้น แนวโน้มระยะยาวดี... คาดว่าจะมีกำไรสุทธิปี 68 เท่ากับ 3.57 พันล้านบาท และกำลังการผลิตส่วนของบริษัท (Capacity on equity ownership) 2,455 MWโดยมี CAGR 6 ปีที่ +7% และ +6% ตามลำดับ

ข่าวหุ้นประจำวันที่คุณอาจจะสนใจ tradestock24

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แจกรูป น้องไอซ์ อลิษา นางแบบสุดเอ็ก เซ็กซี่ร้อนแรง

Kim SchoolDay ไอดอล-สตรีมเมอร์น่ารักใสๆ

แจกรูป แคธรีน ลี นางแบบไซส์ XXS